โรมาเนีย

อังเจล ยอร์ดาเนสคู ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ ยังรักษาสถิติไร้พ่ายไว้ได้ 3 เกมติดต่อกัน เก็บได้ถึง 7 คะแนน รั้งเป็นอันดับ 2 ของกลุ่ม เอฟ  เกมล่าสุดบุกไปทุบ ฟินแลนด์ 2-0 ได้ประตูจาก บ็อกดาน สแตนคู เบิ้ลคนเดียว 2 ประตู

นอกนั้นไม่มีปัญหาอะไร ตัวชูโรงมีทั้ง รัซวาน รัต แบ็กซ้ายมากประสบการณ์, วดัล ชิริเชส กองหลังสเปอร์ส, ฟลอริน การ์ดอส เซนเตอร์ เซาธ์แฮมป์ตัน และ คริสเตียน ทานาเซ่ กับ อเล็กซานดรู ชิปซิอู สองตัวรุกจาก สเตอัว บูคาเรสต์


 ไอร์แลนด์เหนือ

โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมเก็บชัยชนะรวด 3 เกมติดต่อกัน  โดยมีถึง 9 คะแนนเต็ม นำเป็นจ่าฝูงของกลุ่ม เอฟ ยิงได้ 6 ประตู เสียแค่ลูกเดียวเท่านั้น  ล่าสุดบุกไปเอาชนะ กรีซ 2-0 ได้ประตูจาก เจมี่ วอร์ด และ ไคล์ ลาฟเฟอร์ตี้ คนละลูก

สำหรับ แพ็ดดี้ แม็คแนร์ กองหลังดาวรุ่งของ “ปีศาจแดง” มีลุ้นเบียดเป็นตัวจริงเช่นกัน  ในกรณีที่ อารอน ฮิวจ์ส ซึ่งมีปัญหาเรื่องความฟิตไม่พร้อมลงสนาม  ส่วน คริส บรันท์ กลับมาติดธงอีกครั้งน่าได้โอกาสลงเสียบแทน เจมี่ วอร์ด ที่ถอนตัวออกไปในตำแหน่งปีกซ้ายพอดี

จ่าฝูงอย่าง ไอร์แลนด์เหนือ ทำผลงานมาได้อย่างยอดเยี่ยมทว่าเกมนี้ขาดตัวหลักเพียบ ทั้งยังต้องเป็นฝ่ายบุกมาเยือน อาจเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้พวกเขาพบกับความพ่ายแพ้เสียที เพราะฝั่งเจ้าถิ่นสภาพทีมค่อนข้างสมบูรณ์ ฟอร์มก็โดดเด่นไม่แพ้กัน ไร้พ่ายมาตลอด 3 นัด และจะมาเปิดเกมรุกเข้าใส่อย่างเต็มที่ ขอแค่ระวังจังหวะสวนกลับของทีมเยือนสักหน่อยน่าจะเฉือนชนะ และแซงขึ้นไปเป็นจ่าฝูง

ตีแตกราคากับเซียนแกะ ทีมผีดิบโรมาเนียเปิดราคาที่ 0.75  ขุนพลผีดิบโรมาเนียตอนนี้ฟอร์มกำลังดีพอสมควรหลังเก็บชัยชนะมาได้ 2 จาก 3 นัดหลังสุด ขุนพลกำลังหลักๆก็อยู่กันพร้อมหน้า  ด้านทีมเยือนฟอร์มก็กำลังร้อนแรงเก็บชัยมาได้ 3 นัดติดต่อกันแล้ว แต่ถ้าหากเทียบทีมที่ทีมเยือนเจอนั้นถือว่าอยู่ในระดับที่ไม่ได้แกร่งมากเท่าไหร่ นัดนี้ทัพโรมาเนียใส่เต็มที่แน่ แถมได้เล่นในบ้านอีกด้วย

 สกอตแลนด์

ขุนพล “ตาร์ตัน” ผลงานในเกมยูโร รอบคัดเลือก 3 นัดที่ผ่านมานับว่าน่าประทับใจทีเดียว เก็บได้ 4 แต้มเท่ากับเยอรมัน  อยู่อันดับ 4 ของตาราง  ล่าสุดบุกไปแบ่งแต้มกับโปแลนด์ด้วยสกอร์ 2-2 เมื่อกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

ต่อกรณีดังเกล่า สตรัคคั่น ต้องเรียก คัลลั่ม แพทเทอร์สัน กองหลังจากฮาร์ทส์ เข้ามาติดทีมเป็นครั้งแรก เช่นเดียวกับ เลวิส แม็คโคลด์ มิดฟิลด์เรนเจอร์ส และ จอห์นนี่ รัสเซลล์ หัวหอกดาร์บี้ เคาน์ตี้


 ไอร์แลนด์

“ยักษ์เขียว” ฟอร์มกำลังฮอตทีเดียว เกมที่แล้วบุกไปหักหน้าแบ่งแต้มแชมป์โลกเยอรมันถึงถิ่นด้วยสกอร์ 1-1  รักษาสถิติไม่แพ้ใครในรายการนี้ได้อย่างเหนียวแน่น

อีกปัญหาใหญ่ในวันนี้คือ เจมส์ แม็คคาร์ธี่ มิดฟิลด์ตัวเก่งจากค่ายเอฟเวอร์ตัน มีอาการบาดเจ็บเอ็นหลังหัวเข่า ขอถอนทัพไปแล้ว

ศึกสายเลือดเกมนี้ใส่กันไฟแลบแน่ เพราะทั้งสองทีมเป็นสไตล์เกมบุกเหมือนกัน สภาพทีมล่าสุดไอร์แลนด์ดูมีปัญหาเยอะกว่า โดยเฉพาะการขาดหายไปของ เจมส์ แม็คคาร์ธี่ จะทำให้ทีมขาดตัวคุมสมดุลในการเปลี่ยนแกนจากรับเป็นรุก  ซึ่งเป็นปัญหาแน่เมื่อเจอเกมโต้กลับของสกอตแลนด์ที่นำโดย เอคิซี่ อันย่า หรือจะให้ เนสมิธ ชงเองกินเองก็น่ากลัวทุกจังหวะ ยิ่งได้แรงใจแฟนบอลส่งเสริมด้วยแบบนี้ เชื่อว่าสกอตแลนด์เบียดเข้าวินได้ เชียร์เจ้าถิ่นดีกว่า

ตีแตกราคากับเซียนแกะ สกอต์แลนด์เปิดบ้านต่อที่ 0.25  ถือว่าเป็นดาร์บี้แมตช์เลยก็ว่าได้เมื่อสองทีมนี้ต้องโคจรมาเจอกัน สภาพทีมของเจ้าบ้านถือว่าฟอร์มกำลังพอใช้ได้เลย  ทีมเยือนก็ฟอร์มกำลังดีเช่นกัน แต่ด้านทีมเยือนดูจะมีปัญหานักเตะบาดเจ็บเยอะกว่า ที่จะให้ดูวันนี้คือ สถิติที่เจอกันที่บ้านของสกอตแลนด์นั้น สกอตแลนด์ยังไม่เคยเก็บชัยเหนือไอร์แลนด์ได้เลย แต่วันนี้กลับเปิดบ้านต่อซะงั้น วันนี้ลุ้นเจ้าบ้านเชือดได้แน่

 เยอรมัน

“อินทรีเหล็ก” แชมป์โลกสมันล่าสุด ผลงานในรายการยูโร 2016 รอบคัดเลือก ยังน่าผิดหวัง เก็บได้เพียง 4 แต้ม จาก 3 นัดแรก  ล่าสุดทำได้เพียงเปิดบ้านเสมอกับ ไอร์แลนด์ 1-1 เมื่อกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตามยังพอมีข่าวดีที่จะได้ ซามี่ เคดิร่า กับ เบเนติคท์ โฮเวเตส ฟิตกลับมาติดทีม  ขณะที่ โยนาส เฮคเตอร์ แบ็กซ้ายฟอร์มแรงจาก โคโลญจน์ ที่เพิ่งถูกเรียกตัวมาติดทีมเป็นครั้งแรกน่าจะต้องออกสตาร์ตเป็นสำรองไปก่อน


 ยิบรอลตาร์

ยิบรอลตาร์ สมาชิกใหม่ของ ยูฟ่า ฟอร์มใน 3 นัดแรกไม่สู้ดีเลย แพ้รวดแถมโดนหวดรวมกันไป 17 ประตู  โดยเกมล่าสุดโดน จอร์เจีย สอยไปเบาๆ 0-3 เมื่อกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

มิดฟิลด์คู่กลางวางให้ เลียม วอล์คเกอร์ จับคู่กับ ไรอัน กาสเซียโร่ แผนกริมเส้นใช้ ไบรอัน เปเรซ ประจำการด้านขวา  ฝั่งซ้ายเป็นหน้าที่ของ เจค กอสลิ่ง มิดฟิลด์ดาวรุ่ง  คู่หน้าเป็นการผนึกกำลังระหว่าง ลี กาสเซียโร่ และ ไคล์ กาสเซียโร่

ยิบรอลตาร์ กระดูกบอลเป็นรองเยอรมันหลายช่วงตัว ความเก๋าของนักเตะก็สู้กันไม่ได้เลยในเกมที่พบกับ ไอร์แลนด์ พวกเขาเริ่มต้นได้ดี แต่พอโดนประตูแรกก็ไหลยาว  เยอรมัน อาจมีผลงานตกต่ำไปบ้างในช่วงหลัง แต่ทีมที่คาดว่าจะลงสนามในเกมนี้เกินครึ่งคือชุดที่ถล่ม บราซิล 7-1 ในฟุตบอลโลกที่ผ่านมา  ซึ่งดูแล้วก็ไม่น่าใช่งานยากของเยอรมัน แถมตอนนี้อัดอั้นมาหลายเกม ดูแล้ว ยิบรอลตาร์ ชะตาขาดแน่นอน เรตเปิดมาน่าตกใจ แต่ยิบรอลตาร์ฝากความหวังอะไรไม่ได้เลย แนะนำเชียร์เยอรมันดีกว่า

ตีแตกราคากับเซียนแกะ ราคาอินทรีเหล็กเปิดบ้านต่อน่ากลัวสุดๆที่ 8.5  ด้านอินทรีเหล็กที่ฟอร์มกำลังฝืดมาหลายนัด วันนี้มาเจอสมันน้อยของกลุ่มแน่นอนต้องเต็มที่อยู่แล้ว เพื่อเก็บประตูได้เสียไว้ในกรณีที่แต้มเท่ากัน แล้วแถมเป็นการเรียกความมั่นใจของทีมอีกด้วย ด้านทีมเยือนคงไม่ต้องคิดอะไรมาก เพราะโอกาสเข้ารอบแทบไม่มีอยู่แล้วถือว่าเป็นการเล่นเพื่อเก็บประสบการณ์ของเหล่านักเตะ จะให้รองก็คงไม่ไหว วัดใจอยู่ต่ออินทรีเหล็ก

 จอร์เจีย

จอร์เจีย ประสบความสำเร็จเก็บชัยชนะจากเกมที่แล้วได้เป็นครั้งแรกในรายการนี้ ด้วยการบุกไปอัดสมันน้อย ยิบรอลตาร์ 3-0  เมื่อกลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

กุนซือ ติมูรี่ เคตส์บาย่า มีปัญหาให้หนักใจพอสมควร เพราะ อูซ่า ล็อบยานิดเซ่ แบ็กขวาตัวหลัก  เพิ่งเดินทางมาสมทบกับทีมเมื่อวันพุธที่ผ่านมา และไม่ได้ลงซ้อมกับเพื่อนร่วมทีม  สภาพความฟิตน่าจะยังไม่เต็มถัง เช่นเดียวกับ ตอร์นิเก้ โอเครียชวีลี่ มิดฟิลด์ริมเส้นคนเก่ง  แต่เชื่อว่าทั้งสองคนจะถูกเข็นลงสนามอยู่ดี  ส่วนจุดอื่นไม่มีปัญหา พร้อมจัดทัพที่ดีที่สุดลงเล่น


 โปแลนด์

ขุนพลนักเตะโปลิชทำผลงานได้น่าประทับใจสุดๆ หลังจากที่ยังไม่แพ้ใครใน 3 นัดแรก เก็บไปแล้ว 7 คะแนน  ล่าสุดเปิดบ้านเสมอ สกอตแลนด์ แบบสุดระทึกใจ 2-2

จากสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้ นาวัคค่า ต้องเรียกนักเตะทั้งที่เคยและไม่เคยติดทีมชาติมาก่อน เข้ามาเสริมทัพกันพัลวัน ไม่ว่าจะเป็น ราฟาล ยานิคกี้ กองหลังวัย 22 ปี และ คารอล ลิเน็ตตี้ ผู้เล่นอายุน้อยที่สุดในทีมชุดนี้ที่เข้ามาติดทีมด้วยวัยเพียง 19 ปี

จอร์เจีย เป็นอีกทีมที่เล่นในบ้านได้แข็งแกร่งสุดๆ เห็นได้จากเกมกับ ไอร์แลนด์ ก็เล่นเอาทีมยักษ์เขียวรากเลือดเหมือนกันกว่าจะเก็บ 3 คะแนนออกไปได้ สภาพทีมตอนนี้ยังมีปัญหาเรื่องความฟิตของนักเตะตัวหลัก และดูแล้วจะส่งผลต่อการเดินเกมแน่  ขณะที่ โปแลนด์ ต้องเป็นฝ่ายออกมาเยือนก็จริง แต่เกมรุกมีความหลากหลายและเฉียบคม โดยเฉพาะ อาร์คาดิอุสซ์ มิลิค ที่ยิงได้ตลอด 2 เกมหลัง แถมยังมี โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ อีกแนวรุกระดับโลกเป็นหมัดเด็ด มั่นใจว่า โปแลนด์ จะบุกมาเก็บชัยได้อย่างแน่นอน

ตีแตกราคากับเซียนแกะ โปลิช บุกมาต่อที่ 0.5  เจ้าบ้านจอร์เจียถือว่าผลงานในบ้านนั้นหนักแน่นเหลือเกิน สู้เต็มที่ไม่มีหมดใจสุดๆ ด้านทีมเยือนถือว่าอยู่ในช่วงท๊อปฟอร์มสุดๆ ไร้พ่ายมา 5 นัดติดต่อกันแล้ว  ถ้าเทียบศักยภาพนักเตะกันเวลานี้แล้ว ทีมเยือนนั้นถือว่าเหนือกว่าระดับนึงเลยทีเดียว แต่สถิติที่เจอกันที่บ้านของจอร์เจียนั้นถือว่าไม่ง่าย วันนี้มั่นใจจอร์เจียเอาอยู่แน่

 อุรุกวัย

หลังจบฟุตบอลโลก 2014 อุรุกวัย ตระเวนอุ่นเครื่องในโซนเอเชีย โดยล่าสุดเมื่อเดือนตุลาคม เสมอ ซาอุดิอาระเบีย 1-1 ตามด้วยขนะโอมาน 3-0 โดยนัดนี้เป็นศึกล้างตาจากฟุตบอลโลกที่ทีมจอมโหดพลิกพ่าย 1-3

แต่ทีมชุดนี้ไม่มี ดีเอโก้ ฟอร์ลัม กองหน้าตัวเก๋า คริสเตียน สตูอานี่ ตัวรุกจากเอสปันญ่อล แม้ฟอร์มเด่นกับต้นสังกัดก็ตาม และ มาร์ติน กาเซเรส กองหลังยูเวนตุส


 คอสตาริกา

เช่นเดียวกัน คอสตาริกา เดินทางไปอุ่นเครื่องในเอเชีย ช่วงที่ผ่านมา ด้วยการชนะ โอมาน 4-3 ตามด้วยชนะเกาหลีใต้ 3-1 เมื่อเดือนตุลาคม

แต่ขุนพลตัวเก่งทั้ง เกย์ลอร์ นาวาส นายทวารจาก เร อัล มาดริด, จูเนียร์ ดีอาซ ปราการหลังไมนซ์, เยลต์ซิน เตเฮด้า กองกลางเอวิยอง, ไบรอัน รุยซ์ ตัวรุกฟูแล่ม และโจเอล แคมป์เบลล์ กองหน้าอาร์เซน่อล

อุรุกวัย กลับมาเล่นเกมอุ่นเครื่องในบ้านแบบนี้คงหวังจะคว้าชัยชนะตอบแทนแฟนๆแน่นอนเป็นจอมโหดเปิดเกมบุกเข้าใส่ ขณะที่ คอสตาริกา มาเน้นความรัดกุมเป็นหลักแล้วค่อยหาจังหวะสวนกลับจากทีเด็ดของทั้ง ไบรอัน รุยซ์ และโจเอล แคมป์เบลล์ กระนั้นด้วยเกมรุกที่หลากหลายนำโดย หลุยส์ ซัวเรส และ เอดิสัน คาวานี่ เจ้าบ้านน่าบดเอาขนะได้

 โมร๊อกโก

โมร๊อกโก เพิ่งถูกตัดสิทธิ์เจ้าภาพ และไม่ได้ลงเล่นเนชั่นส์ คัพ เรียบร้อยแล้ว อันเป็นผลพวงมาจากเชื้ออีโบลา ส่วนผลงานในเกมล่าสุดนั้นชนะ เคนยา 3-0

แต่ตัวหลักอย่าง เมห์ดี้ เบนาเตีย ปราการหลัง บาเยิร์น, มารูอาน ซามัค กองหน้าพาเลซ และ ยุสซุฟ เอลอราบี หัวหอกกรานาด้า อยู่กันพร้อม


 เบนิน

ไม่ผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้ายแอฟริกัน เนชันส์ คัพโดยผลงานของเบนิน ไม่ดีเท่าไหร่นัก อุ่นเครื่องล่าสุดแพ้แทนซาเนีย 1-4

นอกจากนั้นยังมี มูริตาล่า โอกุนบิยี่ กองหลางจากนีมส์ และ เรด้า จอนห์นสัน ปราการหลังโคเวนทรี

โมร๊อกโกเรียกตัวดังมาแทบพร้อมหน้า นักเตะหวังโชว์ฟอร์มเข้าตาเทรนเนอร์ จึงจะจัดเต็มอย่างแน่นนอน เกมจะเป็นเจ้าบ้านเปิดเกมบุกแบบเต็มตัว ยิ่งเบนินมาเปิดเกมบุกแลกยิ่งเข้าทางเจ้าบ้านโมร๊อกโกตงไล่บดบี้แล้วเอาชนะไปสบายเท้า

 เยอรมัน U21

ฮอร์สท์ ฮรูเบซ เทรนเนอร์ทัพ “อินทรีน้อย” พาทีมผ่านเข้าสู่รอบสุดท้ายของยูดร ยู-21 เรียบร้อยแล้ว หลังจากรอบเพลย์ออฟ พวกเขาไล่ถล่มยูเครน คู่แข่งทั้งสองเกมด้วยสกอร์ 2-0 และ 3-0 รวมทั้งสองนัดชนะขาด 5-0

เกมนี้ ฮรูเบช เรียกนักเตะมา 20 รายโดยกำลังหลักของทีมที่เคยใช้อย่าง เควิน โฟลลันด์, มาธีอัส กินเทอร์ และ อันโตนิโอ รือดิเกอร์ โดนดันขึ้นเล่นให้ทีมชาติชุดใหญ่แล้วไม่มีชื่อเกมนี้ โดยมีนักเตะหน้าใหม่อย่าง รานี เคดิร่า, วิลลี่ ออร์บาน, ฌอน ซิมเมอร์ และ โจชัว คิมมิช มาติดทีมหนแรก


 ฮอลแลนด์ U21

ด้าน “อัศวินสีส้ม” ชุดเล็กมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น เมื่อทีมชวดเข้าสู่รอบสุดท้ายของศึกชิงแชมป์ยุโรป หลังรอบเพลย์ออฟแพ้ให้กับโปรตุเกสทั้งสองเกม ร่วงตกรอบแบบเจ็บช้ำ

อย่างไรก็ตามทีมยังมีผู้เล่นหน้าเดิมๆ อย่าง ตอนนี่ วิลเอน่า, อันวาร์ เอล-กาซี่ และ เนธาน อาเค่ กองกลางเกมรับจากเชลซีเป็นแกนหลัก โดยคาดว่า ฌอง-ปอล โบติอุส, วินเซนต์ ยานส์เซ่น และ อันวาร์ เอล-กาซี่ จะเป็น 3 ประมานแดนหน้าเกมนี้

เยอรมัน อาจจะโดนเรียกหลายๆคนขึ้นสู่ชุดใหญ่ แต่ขึ้นชื่อว่าเด็กเบียร์ยุคนี้แล้ว ของดีทุกราย ที่เรียกเข้ามาติดใหม่ก็ไม่ใช่ว่าจะขี้เหร่กลับกัน ฮอลแลนด์กำลังอยู่ในช่วงผลัดใบ นักเตะหลายๆรายกำลังอยู่ในอาการเซ็ง และอยากพักหลังตกรอบเพลย์ออฟ บุกมาเยือนแบบนี้โดนแน่นอน ว่าเยอรมันเลย

เวือร์ซบัวเกอร์ ฟอร์มดุสุดๆ ชนะมา 6 นัด ติดต่อกันในลีก สถิติในรังก็ยอดเยี่ยม เก็บชัยได้ 4 นัดรวด โดยตอนนี้ อดัม จาบีรี่ กำลังแรง หวดในบ้าน 4 ประตู จาก 3 เกมที่ผ่านมา  ขณะที่เนิร์นแบร์ก ออกนอกรังทีไรมีปัญหาตลอด มั่นใจว่าจะเป็เจ้าถิ่นที่เข้าวินสบายๆ เชียร์เวือร์ซบัวเกอร์ดีกว่าเยอะ

 อังกฤษ U21

“สิงโตน้อย” ของ แกเร็ธ เซาธ์เกต ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมคว้าแชมป์กลุ่มในรอบคัดเลือก ก่อนทะลุผ่านเข้ารอบสุดท้ายเรียบร้อย  หลังเพลย์ออฟอัดโครเอเชียด้วยสกอร์ 2-1 ทั้งสองเกมส์ และเกมนี้อดีตปราการหลังแอสตัน วิลล่า จะทดสอบทีม

อย่างไรก็ตามตัวหลักๆ ที่เหลือพร้อมรบ โดยทีมจะวาง 4-4-2 ลงออกสตาร์ดเกม เลียม มัวร์ กับ ไมเคิ่ล คีน คุมหลัง  กลางสนามจากขวามาซ้าย เนธาน เร้ดมอนด์, ทอม แคร์โรลล์, วิลล์ ฮิวจ์ส และ ทอม อินซ์  โดยมี แดนนี่ อิงก์ส กับ แฮร์รี่ เคน เป็นคู่หอก


 โปรตุเกส U21

ด้าน รุย จอร์จ เทรนเนอร์ทีมชาติโปรตุเกส ชุดอายุไม่เกิน 21 ปี พาทีมผ่านเข้ารอบสุดท้ายเช่นกัน หลังสร้างเซอร์ไพร้เอาชนะ ฮอลแลนด์ ทีมเต็งของรายการได้ทั้งสองเกมด้วยสกอร์ 2-0 นอกบ้าน และเชือด 5-4 ที่โปรตุเกส

อย่างไรก็ตามเกมนี้พวกเขาจะพลาดใช้งาน ดาเนี่ยล แฟร์นันเดส กับ ชูเอา คาร์ลอส สองแกนหลักที่บาดเจ็บไม่มีชื่อติดทีมชุดนี้แต่อย่างใด  ขณะที่ เปาโล โอลิเวยร่า ปราการหลังตัวเก่งของทีมก็ยังพลาดซ้อม หลังมีอาการบาดเจ็บที่หัวเข่า เกมนี้ไม่เสี่ยงลงเล่นแน่นอน

ไม่ง่ายสำหรับสิงโตน้อย แม้ว่าจะได้เล่นในบ้านของตัวเอง เพราะโปรตุเกสชุดนี้มีดีที่เกมโต้กลับเร็ว ข้างหน้าความสามารถเฉพาะตัวดี เจ้าบ้านเองก็ขาดผู้เล่นหลายรายที่โดนเรียกตัวไปเล่นชุดใหญ่ นัดนี้ลองทีมหลายๆตำแหน่ง ทีมเยือนเกรดบอลดี บุกมาเยือนแบบไม่กลัว สิงโตน้อยน้ำตาร่วงคาบ้านได้เลย

 อาร์เซน่อล

เจ้าถิ่น อาร์เซน่อล เด ซารานดี้ ทีมอันดับ 12 ของผู้จัดการทีม มาร์ติน ปาเลร์โม่ เพิ่งจะพาทีมบุกพ่าย ลานุส ไปอย่างน่าเสียดาย 2-3 เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

สำหรับความพร้อมของทีมในวันนี้ ไม่มีรายงานของผู้เล่นเจ็บและติดโทษแบนแม้แต่คนเดียว ทำให้ ปาเลร์โม่ สามารถเลือกใช้นักเตะที่มีอยู่ได้ครบมือ และคาดว่าน่าจะยังใช้แผน 4-4-2 โดยวาง เอมิลิโอ เซลาย่า (14 นัด/5 ประตู) จับคู่กับ เซบาสเตียน ปาลาซิออส (14 นัด/1 ประตู) ในแดนหน้า และมี เฮร์นาน เฟรเดส (13 นัด), รามิโอ การเรร่า (15 นัด/4 ประตู) และ บราเฮียน อเลมาน (15 นัด/4 ประตู) คอยประสานงานเกมรุกจากกลางสนาม


 อินเดเพนเดียนเต้

ส่วนทางฝั่งของทีมเยือนอย่าง อินเดเพนเดียนเต้ ทีมอันดับ 4 ของกุนซือ ฮอร์เก้ อัลมิรอน แม้ว่าโชว์ฟอร์มดีอย่างต่อเนื่อง แต่การพลาดในเกมล่าสุด ด้วยการเปิดรังพ่ายให้กับ กิมนาเซีย 0-1 ทำให้โอกาสลุ้นแชมป์เริ่มสั่นคลอนอีกครั้ง

สำหรับความพร้อมของทีม โชคดีที่ไม่มีรายชื่อของแข้งเดี้ยงแม้แต่คนเดียว และคาดว่า อัลมิรอน น่าจะใช้ระบบ 3-3-3-1 โดยส่ง ฮวน ลูเซโร่ (13 นัด/3 ประตู) กองหน้าฟอร์มดีวัย 22 ปี ยืนเป็นตัวเป้าในเกมนี้ และวาง ดาเนี่ยล มอนเตเนโกร (14 นัด/1 ประตู), เคลาดิโอ เรียโน่ (12 นัด/2 ประตู) และ ฟรานซิสโก้ ปิซซินี่ (12 นัด/1 ประตู) เป็นสามประสานในแดนกลาง

แม้ว่าทีมเยือน อินเดเพนเดียนเต้ จะฟอร์มดีจนน่าตกใจ และต้องการสามแต้มในเกมนี้เป็นอย่างมาก หากอยากลุ้นแชมป์ฤดูกาล 2014 ยิ่งสร้างความกดดันให้กับพวกเขาอย่างหนัก อย่างไรก็ดี สำหรับเจ้าบ้าน อาร์เซน่อล เด ซารานดี้ ที่แทบจะไม่ต้องลุ้นอะไรแล้ว น่าจะลงเล่นโดยไร้ความกดดันมากกว่า

แถมสถิติการลงเล่นในบ้านของพวกเขายังน่ากลัวอีกด้วย เพราะลงสนามในรังของตัวเอง 7 นัด ชนะไปถึง 5 ครั้งและเสมอ 2 เกม โดยไม่แพ้ใคร แถมยังยิงได้ 9 ประตูและเสียเพียงแค่ 2 ลูกเท่านั้น เรียกว่างานนี้การจะบุกไปเก็บสามแต้มที่บ้านของ อาร์เซน่อล ไม่ใช่งานง่ายของ อินเดเพนเดียนเต้ แน่นอน ฟันธง! เชื่อมั่นเจ้าถิ่นไม่น่าแพ้คารัง และน่าจะบดเอาชนะไปได้ตามสูตร…!